การควบคุมอาหารในชีวิตประจำวัน
ReadyPlanet.com
dot dot
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletออกซิเจนบำบัด
bulletเอนไซม์บำบัด
bulletสุคนธบำบัด
bulletดนตรีบำบัด
bulletพลัง SO Qi คืออะไร
bulletการแพทย์ทางเลือก
bulletพลังงานกับสิ่งมีชีวิต
dot
การบำบัดด้วยความร้อนจากอินฟราเรดระยะไกล
dot
bulletการบำบัดด้วยความร้อนจากอินฟาเรด
bulletรู้จักกับอินฟราเรดระยะไกล
bulletบทบาทในด้านการบำบัด
bulletอินฟราเรดระยะไกลกับสุขภาพ
bulletอินฟราเรดกับการบรรเทาอาการปวดเมื่อย
bulletอินฟราเรดกับความดันโลหิตสูง
bulletอินฟราเรดกับการควบคุมน้ำหนัก
bulletอินฟราเรดกับภาวะไตวายเรื้อรัง
bulletอินฟราเรดกับการขับถ่ายสารพิษโลหะหนัก
dot
การกระตุ้นบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้า
dot
bulletการบำบัดด้วยไฟฟ้าประจุลบ Electro Therapy
bulletการบำบัดด้วย Electro Reflex Energizer
dot
มาตรการต้านมะเร็ง
dot
bulletมาตรการต้านมะเร็งอย่างได้ผล
dot
สินค้าและบริการ
dot
bulletโปรโมชั่นพิเศษ
dot
สมัครสมาชิกรับข่าวสาร

dot
dot
สินค้ายอดนิยม
dot


chi machine - soqi, อุปกรณ์กายภาพ เครื่องจัดกระดูกสันหลัง
Soqi Far Infrared Hot House
วิธีการป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ H1N1
โปรโมชั่นวันแม่ 2562


การควบคุมอาหารในชีวิตประจำวัน

การควบคุมอาหารที่ควรปฏิบัติในการใช้ชีวิตประจำวัน

1. อย่ารับประทานอะไรถ้าคุณไม่ได้หิว
2. อย่ารับประทานอาหารตอนดึกๆ
3. รับประทานอาหารเพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อพลังงานและ ความแข็งแรงของร่างกาย
4. หยุดรับประทานอาหารฟาสต์ฟูด คุณต้องไม่เร่งรีบที่จะรับประทานอาหาร
5. ใช้เวลากับการรับประทานอาหาร โดยให้แน่ใจว่าคุณได้ลิ้มรสชาดของอาหารในขณะที่รับประทาน
6. รับประทานมื้อละน้อยๆ แต่บ่อย แทนที่จะรับประทานมื้อใหญ่ๆ
 
ควรงดรับประทานอาหารเหล่านี้ด้วยกัน
1 คาร์โบไฮเดรต กับ โปรตีน
เช่น ควรรับประทานเนื้อหรือไข่ กับผักสด ไม่ใช่กับข้าว มัน หรือ ขนมปัง เนื่องจากแป้งกับโปรตีนทำให้เกิดแก๊ส และ ย่อยยาก
2 ไม่ควรรับประทานผลไม้ คู่กับ อาหารชนิดอื่น
3 ไม่ควรดื่มในระหว่างมื้ออาหาร
ควรดื่มน้ำก่อน หรือหลังมื้ออาหาร แต่อาจจะจิบนิดหน่อยเพื่อช่วยย่อยได้ การจิบไวน์แดงซักแก้วในระหว่างรับประทานจะช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น
 

อาหารที่เลวร้ายสำหรับสุขภาพ
1. น้ำตาล น้ำตาลทำให้ดูแก่กว่าวัย และเป็นพิษต่อร่างกาย หากต้องการความหวานอาจใช้น้ำผึ้งหรือ พืชที่ให้ความหวานเช่นเดียวกับน้ำตาล
2. น้ำอัดลม คือเครื่องดื่มที่เป็นฟอง มีสารเคมีและน้ำตาลผสมอยู่
3. อาหารที่ระบุว่าเป็นประเภท ไดเอท เนื่องจากในอาหารเหล่านี้มักมีสารเคมีซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผสมอยู่ ซึ่งมักจะให้โทษมากกว่าที่จะเป็นประโยชน์
4. กาแฟที่สกัดคาเฟอีน เพราะการสกัดคาเฟอีนใช้สารเคมีซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย
5. อาหารฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากร้านฟาสต์ฟู้ดมักจะประกอบอาหารที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน และ เมนูอาหารมักประกอบด้วยแป้งกับโปรตีนเป็นหลัก
6. อาหารกระป๋อง มักไม่มีคุณค่าของสารอาหารหลงเหลืออยู่แล้ว
7. ไม่รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของ หางน้ำนม(whey) ขัณฑสกร(saccharine) และ แอสปาแตม

อาหารที่มีสีขาวมักไม่ดีต่อสุขภาพ
1. นมโคเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด หรือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เพิ่งแรกเกิด น้ำนมจะไปทำให้เกิดเมือกในทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการสกัดกั้นการดูดซึมสารอาหาร  ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไม่เต็มที่ อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และไซนัส ในเวลาต่อมาได้
2. ชีส ทำให้มีเสมหะมาก และทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินอาหาร ท้องผูก คุณสามารถทดสอบโดยใช้ซ่อมจิ้มไปบนหน้าพิซซาที่ทิ้งจนเย็น จะเห็นได้ชัดถึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายเรานานถึง 3 วัน
3. พาสต้า เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการพลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับคนทั่วๆไป จากสถิติพบว่า อิตาลี่ เป็นประเทศที่มีเด็กประสบปัญหาโรคอ้วนรองๆจากอเมริการ
4. เกลือ และ มาการีน เราสามารถใช้เกลือสินเธาวน์แทนเกลือป่น หรือ ใช้เนยสดแทนมาการีน

สารอาหารที่ปลอดภัยกับร่างกาย
1. รับประทานอาหารที่มีสภาพเป็นด่างให้มากเข้าไว้
เครื่องดื่ม:
a. ดื่มน้ำเปล่า เพราะน้ำจะช่วยชะล้างสารพิษ รวมถึงไขมัน อาจจะใส่ใบสะระแหน่หรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มกลิ่น
b. ดื่มน้ำผลไม้สด ที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารเพิ่มความหวาน
c. ดื่มชาเขียว ชาเขียวประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยยับยั้งมะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
d. ไวน์แดง อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้ หากดื่มในปริมาณน้อย
หากเรารับประทานอาหารที่เป็นธรรมชาติ เรามักจะไม่หิวหรืออยากอาหารบ่อยๆ ต่างจากเมื่อเราดื่มน้ำอัดลม หรือ อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ จะทำให้เราหิวและอยากอาหาร ตลอดเวลา
อาหารต่อไปนี้เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของอาหารต้านมะเร็ง
เบอร์รี่ ผักขม บรอคเคอรี่ มะเขือเทศ แครอท ดอกกะหล่ำ แตงกวา ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน หอยนางรม โยเกิร์ต นมเปรี้ยวที่อุดมด้วยแลคโตลาซิลลัส เต้าหู้ ถั่ว กล้วย องุ่นม่วง ลูกพรุนและน้ำลูกพรุน น้ำว่านหางจรเข้ กระเทียม วีทกลาส เมล็ดแฟลกซ์  ละอองเกสรจากผึ้ง สาหร่ายสไปรูไลน่า และ แสงอาทิตย์
 
 
เอนไซม์คืออะไรกันแน่???
เอนไซม์คือโมเลกุลของโปรตีนที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ทำหน้าที่เฉพาะอย่าง นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเอนไซม์มากกว่า 5,000 ชนิด
เอนไซม์ กระตุ้นให้เกิดกระบวนการย่อยอาหาร การดูดซึม การขจัดของเสีย และ มีความสำคัญต่อทุกกระบวนการที่สำคัญต่อการดำรงคงอยู่ของชีวิต เอนไซม์ไม่เพียงเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ มันยังเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี

เอนไซม์แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆดังนี้
1. Metabolic Enzymes คือเอนไซม์กลุ่มใหญ่ที่สุด และ เป็นปัจจัยหลักสำหรับการทำงานในทุกๆส่วนของร่างกายได้แก่ การหายใจ การพูด การเคลื่อนไหว การคิด พฤติกรรม และ การส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เอนไซม์กลุ่มย่อยของ Metabolic Enzymes ทำหน้าที่ล้างพิษและสารก่อมะเร็งเช่น ของเสียต่างๆ DDT ควันบุหรี่ และปรับเปลี่ยนให้ของเสียเหล่านั้นถูกย่อยสลาย อันเป็นผลให้ร่างกายสามารถขจัดออกได้ง่าย
2. กลุ่มที่สองได้แก่ Digestive Enzymes มีทั้งหมด 22 ชนิด Digestive Enzymes โดยส่วนใหญ่ผลิตโดยตับอ่อน ทำหน้าที่ย่อยอาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร โดย Digestive Enzyme จะถูกหลั่งออกมาจากต่อมที่อยู่บริเวณลำใส้เล็กตอนต้น ซึ่งเป็นวาล์วที่แยกกระเพาะอาหารออกจากลำใส้เล็ก
3. เอนไซม์กลุ่มที่สามที่ควรจะพิจารณาเมื่อเราต้องการวางแผนเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ได้แก่ Food Enzymes ซึ่งมีอยู่ในอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก Food Enzymes เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการย่อยอาหารตั้งแต่ในปาก กระเพาะอาหารส่วนต้น Food Enzymes ประกอบไปด้วย โปรตีเอส(ช่วยย่อยโปรตีน) ลีเปส(ช่วยย่อยไขมัน) และ อะไมเลส(ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต)
 
 
เอนไซม์ช่วยระบบการทำงานของร่างกายดังนี้
1. ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน
เอนไซม์ช่วยผ่อนความเป็นกรดภายในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลย์ของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในร่างกาย ช่วยในการย่อยอาหาร และ ต่อต้านแบคทีเรียที่ไม่เป็นประโยชน์ นอกจากจะช่วยสนับสนุนการทำงานของอวัยวะภายในแล้ว เอนไซม์ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น
2. ทำความสะอาดเลือด
2.1 ทำความสะอาดเลือด เอนไซม์ช่วยในการขจัดของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการออกจากกระแสเลือด เป็นตัวละลายไขมันที่จับอยู่ตามผนังหลอดเลือด และช่วยป้องกันโรคหัวใจอันมีสาเหตุมาจากความดันโลหิตสูง
2.2 ต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆ เมื่อเซลล์ที่ดีในร่างกายได้รับการคุกคาม เอนไซม์จะแสดงบทบาทในการกำจัดแบคทีเรียเหล่านั้น ด้วยการย่อยสลาย กำจัด การแพร่กระจาย และยังบรรเทาการติดเชื้อ ในขณะเดียวกัน สารอาหารในร่างกายจะถูกเร่งให้เกิดปฏิกิริยาเพื่อสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพไป
2.3 กำจัดแบคทีเรีย เอนไซม์ไม่เพียงแต่มีบทบาทในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการฆ่าหรือดักจับเชื้อโรคเท่านั้น เอนไซม์ยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียด้วยตัวมันเองอีกด้วย
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารและการดูดซึม
เอนไซม์ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญสารอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เอนไซม์ที่เพียงพอจะช่วยตั้งแต่การย่อย การดูดซึม และเผาผลาญ ทำให้ร่างกายสามารถที่จะให้พลังงานและความอบอุ่น และยังช่วยให้การทำงานของส่วนต่างๆมีความสมดุลย์และประสานเป็นหนึ่ง
4. นอกจากนี้เอนไซม์ยังมีประโยชน์อีกมากมายดังนี้ :
ช่วยชำระล้างลำใส้ - กรณีบริโภคอาหารในปริมาณมากเกินไป
ช่วยต้านสารพิษ - ช่วยย่อยสลายแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด ป้องกันอาการเมาค้าง หรือ ช่วยให้หายจากอาการที่ได้รับสารพิษมากเกินไป
ช่วยแก้ปัญหาระบบการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์ – ช่วยต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของการเน่าเสียในลำใส้ เสริมให้มีการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ และ ยังช่วยในเรื่องการดูดซึมสารอาหาร
ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากผ่าตัด - เอนไซม์ช่วยในการย่อยอาหารและแปรสภาพของอาหารให้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่พักฟื้นจากการผ่าตัดลำใส้เล็ก ลำใส้ใหญ่และทางเดินอาหาร
ช่วยแก้ปัญหาผู้ที่ท้องผูก และ เป็นริดสีดวงทวาร
5. ปรับปรุงการทำงานของเซลล์ที่เกี่ยวกับการเผาผลาญ
เซลล์ในร่างกายของมนุษย์มีหน้าที่ในการเผาผลาญ เซลล์เก่าจะถูกทดแทนด้วยเซลล์ใหม่ทุกๆ 4 เดือน การผลัดเซลล์เก่าและทดแทนด้วยเซลล์ใหม่นั้นจะทำได้อย่างสมบูรณ์เมื่อร่างกายมีเอนไซม์ในระดับที่สมดุลย์ แต่หากระดับเอนไซม์ในร่างกายไม่พอเพียงก็อาจเป็นผลให้เกิดโรคต่างๆตามมา
ผลด้านความงาม
- ช่วยปรับให้ผิว ใส และ เรียบเนียน
- ชวยขจัดร่องรอย จุดด่างดำ และ ป้องกันรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย
- ช่วยขจัดผื่นคัน และ ช่วยอาการภูมิแพ้ และ ผื่นคันจากโรคลมพิษ
- กำจัดอาการตาแดง และ ให้ผลดีกับการมองเห็น
- ช่วยบำรุง หล่อเลี้ยง ผม และ เล็บ
ด้านสุขภาพ
- ช่วยให้อายุยืนยาว ด้วยกระบวนการเผาผลาญที่เป็นปกติ
- ช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์และป้องกันโรค
- ให้ผลดีกับการต้านมะเร็งและ การปกป้องร่างกายจาการติดเชื้อ HIV
6. ช่วยในเรื่องการมีบุตรยาก เอนไซม์ในตัวอสุจิจะช่วยในเรื่องการเจาะผนังของเซลล์ไข่ในฝ่ายหญิง ทำให้เกิดการรวมตัวกันของอสุจิกับไข่และก่อกำเนิดชีวิตใหม่ขึ้น

 




มาตรการต้านมะเร็ง

มาตรการต้านมะเร็งอย่างได้ผล
การทำให้เซลล์ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
อาหารที่มีปริมาณเอนไซม์สูง และ มีสภาพความเป็นกรด/ด่างที่สมดุล
การล้างพิษ (Detoxification)
การบำบัดด้วยความร้อนจากอินฟราเรดระยะไกล
การสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย



Copyright © 2010 All Rights Reserved.