การบำบัดด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electro Therapy) คืออะไร
การบำบัดด้วยไฟฟ้าที่พูดถึงนี้ไม่ใช่เป็นการใช้ไฟฟ้าช๊อตไปที่ร่างกาย แต่เรากำลังพูดถึงการใช้กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่ใกล้เคียงกับกระแสไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์มาใช้ในการบำบัด เพื่อเป็นการผสานเป็นหนึ่งเดียวกันของพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกกับภายในร่างกาย ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนการชาร์จพลังงานให้กับร่างกายซึ่งจะให้ผลดีในแง่ของการบำบัด เยียวยาอาการไม่พึงประสงค์ และ ปรับสมดุลย์ร่างกาย
หลักของการบำบัดด้วยพลังงานไฟฟ้าถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศกว่า 85 ประเทศ โดยเฉพาะกับนักกีฬาโอลิมปิค การฝังเข็มด้วยกระแสไฟฟ้า หรือแม้แต่นักบินอวกาศของประเทศรัสเซีย แต่ในภาคครัวเรือน เรายังรู้จักประโยชน์ของการบำบัดด้วยไฟฟ้ากันน้อยมาก
เราต้องเข้าใจก่อนว่า สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตดำรงอยู่ได้เพราะมีพลังงานอยู่ภายใน เราอาจจะเรียกมันว่าเป็น พลังชีวิต พลังลมปราน หรือ พลังชี่ ซึ่งมีความถี่เทียบได้กับความถี่ของคลื่นวิทยุ มนุษย์มีความถี่ของคลื่นไฟฟ้าในร่างกายคล้ายคลื่นวิทยุ คือมีคลื่นความถี่(bandwidth)กว้าง และ ความต่างศักย์(voltage)ต่ำ (1520 ถึง 9460 KHz) ในขณะที่เชื้อโรคเช่น ไวรัส หรือ แบคทีเรีย จะอยู่ที่ 77 ถึง 900 KHz
เมื่อมีอาการเจ็บ ปวด หรือ ชา ในบริเวณใดๆของร่างกายเรา อาการเหล้านี้คือตัวบ่งชี้ว่ามีการอุดตัน ปิดกั้น ของกระแสไฟฟ้าในร่างกายที่ไหลผ่านบริเวณที่มีอาการ หากมีอาการรุนแรง มันอาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าสัญญาณกระแสไฟฟ้าในบริเวณนั้นถูกตัดขาด และต้องการการซ่อมแซมให้มีการเชื่อมต่อให้คืนกลับสู่สภาพปกติ การบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าเป็นทางเลือกหนึ่งในการทำให้วงจรไฟฟ้าในร่างกายกลับมาเชื่อมต่อให้เป็นปกติดังเดิมซึ่งจะคืนการไหลเวียนของพลังงานให้กับระบบของร่างกายอีกครั้ง เซลล์ต่างๆที่เคยอ่อนกำลังก็จะได้รับพลังงานเข้าไปฟื้นฟู เพื่อให้อาการเจ็บปวดได้รับการเยียวยาแก้ไข รวมไปถึงการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่สั่งการจากสมอง ซึ่งกลไกการบำบัดด้วยไฟฟ้า ช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น สามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท บำบัดฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงกลับมาแข็งแรง
การบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ถึงประโยชน์และการเยียวยาร่างกายมานานแล้ว การบำบัดด้วยไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางชีววิทยาของเซลล์ (Bio Resonance) ส่งผลโดยตรงกับการกำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกายและเยียวยาอาการเจ็บป่วย ซึ่งวิธีการนี้ถูกนำมาใช้ในหลายๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ รัสเซีย ในรัสเซียมีการใช้กับ ประธานาธิบดีปูติน ใช้กับนักกีฬาโอลิมปิค ใช้ในสถานีอวกาศ และ กรมอนามัย ส่วนในประเทศในยุโรปมีการนำการบำบัดด้วยประแสไฟฟ้ามาใช้ (เรียกว่า electro-medicine) กับการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ใช้ในหมู่นักกีฬา และ การรักษาโรคกระดูก
การกดจุดสะท้อน (Reflexology) คืออะไร
การกดจุดสะท้อนเป็นศาสตร์การบำบัดแผนจีนโบราณ (และถูกใช้ในสมัยอียิปต์ด้วย) เป็นการแบ่งตำแหน่งบนฝ่ามือและฝ่าเท้าออกเป็นส่วนๆ และแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงกับอวัยวะหรือต่อมต่างๆภายในร่างกาย การกระตุ้นที่ตำแหน่งที่เป็นจุดสะท้อนเหล่านี้จะช่วยลดอาการบาดเจ็บ ตึงตัว ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือด และ ช่วยหยุดการติดขัดของกระแสประสาท
ดังนั้นการบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าร่วมกับจุดสะท้อนบนฝ่าเท้า จึงเป็นการรวมเอาการบำบัดจากพลังงานไฟฟ้า ด้วยวิธีการกระตุ้นผ่านจุดสะท้อนบนฝ่ามือและฝ่าเท้าไว้ด้วยกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดด้วยการกดจุดสะท้อน ด้วยการเหนี่ยวนำพลังของการนวดกดจุดด้วยกระแสไฟฟ้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการบำบัดอาการอันเกิดมาจากการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผ่อนคลาย และ ยังกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในด้วยศาสตร์ของการกดจุดสะท้อน โดยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ซึ่งเราเรียกอุปกรณ์ชนิดนี้ว่า Electro Reflex Energizer (ERE)