อินฟราเรดกับการควบคุมน้ำหนัก/ลดไขมันส่วนเกิน
ReadyPlanet.com
dot dot
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletออกซิเจนบำบัด
bulletเอนไซม์บำบัด
bulletสุคนธบำบัด
bulletดนตรีบำบัด
bulletพลัง SO Qi คืออะไร
bulletการแพทย์ทางเลือก
bulletพลังงานกับสิ่งมีชีวิต
dot
การบำบัดด้วยความร้อนจากอินฟราเรดระยะไกล
dot
bulletการบำบัดด้วยความร้อนจากอินฟาเรด
bulletรู้จักกับอินฟราเรดระยะไกล
bulletบทบาทในด้านการบำบัด
bulletอินฟราเรดระยะไกลกับสุขภาพ
bulletอินฟราเรดกับการบรรเทาอาการปวดเมื่อย
bulletอินฟราเรดกับความดันโลหิตสูง
bulletอินฟราเรดกับการควบคุมน้ำหนัก
bulletอินฟราเรดกับภาวะไตวายเรื้อรัง
bulletอินฟราเรดกับการขับถ่ายสารพิษโลหะหนัก
dot
การกระตุ้นบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้า
dot
bulletการบำบัดด้วยไฟฟ้าประจุลบ Electro Therapy
bulletการบำบัดด้วย Electro Reflex Energizer
dot
มาตรการต้านมะเร็ง
dot
bulletมาตรการต้านมะเร็งอย่างได้ผล
dot
สินค้าและบริการ
dot
bulletโปรโมชั่นพิเศษ
dot
สมัครสมาชิกรับข่าวสาร

dot
dot
สินค้ายอดนิยม
dot


chi machine - soqi, อุปกรณ์กายภาพ เครื่องจัดกระดูกสันหลัง
Soqi Far Infrared Hot House
วิธีการป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ H1N1
โปรโมชั่นวันแม่ 2562


อินฟราเรดกับการควบคุมน้ำหนัก/ลดไขมันส่วนเกิน

ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก


โรคอ้วน หมายถึง การเพิ่มของมวลไขมันใต้ผิวหนังและในเนื้อเยื่ออื่นๆ อาการอ้วนหรือน้ำหนักมากเกินไปสามารถนำมาซึ่งโรคร้ายหลายชนิด โดยเฉพาะโรคอ้วนซึ่งเป็นผลจากการสะสมไขมันมากเกินไปภายในบริเวณช่องท้อง รอบไต และอวัยวะคั่นระหว่างปอด เยื่อบุหัวใจ ตับอ่อน และ ระหว่างโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ หัวใจและตับ
การเป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าหายใจติดขัดและปวดบริเวณหลัง เข่า และ เท้า นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคความดันสูง หัวใจขาดเลือด เบาหวาน เส้นเลือดในสมองแตก ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือด และ ไตอักเสบ

การควบคุมน้ำหนักจะทำได้ด้วยการออกกำลังกาย อดอาหาร กายภาพบำบัด จิตบำบัด ฮอร์โมนบำบัด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้วิธีการเหล่านี้ การใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกลช่วยให้ร่างกายขับไขมันส่วนเกินผ่านกระบวนการสร้างและย่อยสลายที่ดีขึ้นของต่อมใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ต่อมเหงื่อ

การทำให้เหงื่อหนึ่งมิลลิลิตรระเหย ผิวหนังต้องใช้พลังงาน 0.58 กิโลแคลลอรี่ในการเผาผลาญ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการขับเหงื่อจึงเป็นการลดน้ำหนัก การขับเหงื่อ 200-400 มิลลิลิตร จะมีค่าเท่ากับการสูญเสียน้ำหนักไป 400-600กรัม ถ้าหากเป็นการใช้พลังงานซึ่งได้จากพลังงานที่สะสมได้จากไขมัน

เครื่องทำความร้อนด้วยรังสี อินฟราเรดระยะไกลจะขับน้ำ และ ของเหลวอื่นๆ ผ่านสามกระบวนการดังต่อไปนี้
1. การขับเหงื่อซึ่งเป็นผลจากการระเหยของน้ำ
2. การให้ความร้อนกับเนื้อเยื่อในกล้ามเนื้อจะเพิ่มแรงดันในกล้ามเนื้อซึ่งจะทำให้สามารถดูดน้ำออกจากเลือดได้มากขึ้น
3. การที่ร่างกายขับเหงื่อได้มากทำให้มีการขับเกลือ โลหะหนัก และไขมัน ออกได้มากขึ้น

 

สรีระวิทยาของเหงื่อ


ความร้อนจะกำเนิดขึ้นตลอดเวลาภายในร่างกาย แม้ในขณะที่ร่างกายไม่เคลื่อนไหว ในขณะที่ความร้อนกำเนิดในร่างกาย อุณหภูมิของร่างกายก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย ภายใต้สถานการณ์นี้ วิถีทางเดียวที่ร่างกายสามารถปลดปล่อยความร้อนได้คือการระเหย เพื่อให้ความเย็นแก่ร่างกายต้องใช้พลังงานความร้อน 0.6 แคลอรี่ในการระเหยน้ำหนึ่งกรัม การขับเหงื่อจึงเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุดในการปรับระดับอุณหภูมิของร่างกาย

ร่างกายอาจขับเหงื่อได้ประมาณ 200 มิลลิลิตรในการออกกำลังกายอย่างเบาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่การออกกำลังกายอย่างหนักอาจทำให้ร่างกายขับเหงื่อได้ประมาณ 700 มิลลิลิตร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่างกายไม่ขับเหงื่อ? คำตอบก็คือ การเพิ่มขึ้นอย่างมากของอุณหภูมิร่างกายซึ่งอาจเป็นหายนะสำหรับสิ่งมีชีวิต

การออกกำลังกายจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น การกระตุ้นของกล้ามเนื้อหัวใจก็จะทำให้เกิดผลดีต่อการปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิตทั้งหมด การออกกำลังกายเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะมันช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิตในกล้ามเนื้อ

ในการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะใช้พลังงานมากกว่าปกติและอุณหภูมิของร่างกายก็จะสูงขึ้นสอดคล้องกัน เพื่อที่จะหยุดร่างกายจากการมีความร้อนสูงเกินไป ประสาทพาราซิมพาเทติกจะถูกกระตุ้นโดยตรงจากร่างกายเพื่อกระจายความร้อนผ่านทางเหงื่อ อย่างไรก็ตามการขับเหงื่อภายใต้สภาวะความเครียดนั้นไม่มีผลดีต่อสุขภาพเสียเลย เมื่อความเครียดอยู่ในขั้นรุนแรง (หรือการออกกำลังกายมากเกินไปของคนที่มีสุขภาพปกติ) ไต อาจได้รับเลือดน้อยลง และ ปริมาณของปัสสาวะจะลดลงไปด้วยตามกัน การขับเหงื่อมากผิดปกติจากความเครียดอาจจะเป็นสาเหตุให้อุณหภูมิในร่างกายตกลงอย่างผิดปกติ

การขับเหงื่ออย่างมีสุขภาพที่ดีนั้น หมายถึงการมีเหงื่อที่อุ่น เช่นการขับเหงื่อโดยการใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล ร่างกายจะปรับและคงไว้ซึ่งอุณหภูมิผ่านการขับเหงื่อ เหงื่อจะถูกขับออกจากต่อมซึ่งฝังอยู่ในหนังแท้ใต้หนังกำพร้า

ต่อมเหงื่อ (ต่อมขับถ่าย) ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1833 โดยนักสรีระวิทยาชาวโบฮีเมียชื่อ บรู๊ค ต่อมเหงื่อประกอบด้วยโครงสร้างขับถ่ายแบบเกลียวที่รายล้อมไปด้วยหลอดเลือดฝอย ในต่อมเหงื่อทั้งหมดนี้บางต่อมก็จะเป็นต่อมที่ผลิตเหงื่อ บางต่อมก็ไม่ทำงาน หากว่าเราเอาจำนวนเฉลี่ยของต่อมเหงื่อที่ทำงาน 2.3 ล้านต่อมซึ่งรายล้อมไปด้วยหลอดเลือดฝอย ถ้าเราเอาปลายหลอดเลือดฝอยมาต่อกัน จะได้ความยาวมากกว่า 74 กิโลเมตร ด้วยตัวเลขเหล่านี้เราสามารถรู้ได้ว่าต่อมเหงื่อ 2.3 ล้านต่อมจะสามารถผลิตเหงื่อได้ 1 – 1.5 ลิตรในหนึ่งชั่วโมง!

ความร้อนซึ่งปลดปล่อยจากเครื่องฮอทเฮ้าส์แบบ 3 ชิ้น สามารถครอบคลุมได้ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นผิวของร่างกาย จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าการอาบด้วยความร้อนด้วยเครื่องฮอทเฮ้าส์ เป็นเวลา 20 นาทีขึ้นไป จะสามารถกระตุ้นร่างกายให้ขับเหงื่อได้ประมาณ 300 มิลลิลิตร

ทุกส่วนของร่างกายสามารถขับเหงื่อได้ทั้งหมด หน้าผาก คอ ด้านหน้าและด้านหลังของลำตัวเป็นพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตเหงื่อเมื่อเปรียบเทียบกัน ด้านข้างของลำตัวและส่วนล่างของลำตัวไม่สามารถผลิตเหงื่อได้มากเท่า ต่อมเหงื่อบนฝ่ามือและฝ่าเท้าก็เหมือนกับต่อมเหงื่อในส่วนอื่นๆของร่างกาย  แต่จะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปเพราะว่ามันถูกสร้างมาตั้งแต่ตัวอ่อนเริ่มเติบโตขึ้นในครรภ์มารดา เหงื่อที่ขับจากมือและเท้าจะเป็นผลจากความตื่นเต้น หรือ ความเครียด

 

ส่วนประกอบของเหงื่อ


ส่วนประกอบ 95% ของเหงื่อก็คือน้ำ แต่ยังคงมีส่วนผสมหลายยอย่างสิ่งนี้รวมถึงเกลือแร่ของแข็ง (คลอรีน โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสโฟเนี่ยม และเหล็ก) สสารซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน (กรดแอมโมเนีย ยูเรีย กรดยูริค และเคราทิน) กลูโคส กรดแลกติก วิตามินและฮอร์โมนต่างๆ น้ำยังเป็น 90% ของส่วนประกอบของเลือดเมื่อเปรียบเทียบกัน เหงื่อจะมีความเหยียวหนืดน้อยกว่าเลือด และน้อยกว่าปัสสาวะและน้ำตา ด้วย คุณลักษณะพิเศษนี้ทำให้เหงื่อสามารถปรับอุณหภูมิของร่างกายได้รวดเร็วกว่าการขับถ่ายด้วยวิธีอื่น

ส่วนประกอบหลักสามอย่างในเหงื่อคือ เกลือ ยูเรีย และ กรดแลกติก ความเข้มข้นของเกลือเป็นเรื่องที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ อาศัยจากอัตราการขับเหงื่อ ความเข้มข้นเฉลี่ยของเกลือในเหงื่อคือ 0.4% - 1.0% โดยการใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล จะช่วยเพิ่มเติมการสูญเสียของเกลือขณะที่ปริมาณของการขับเหงื่อขึ้นถึง 500 มิลลิเมตร ขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่ ร่างกายต้องการเกลือและน้ำมากขึ้นด้วย เพราะเครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกลทำให้ร่างกายขับน้ำออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ความเข้มข้นของเกลือในเหงื่อลดลงด้วย ผู้ป่วยที่เป็นความดันเลือดสูงต้องจำกัดการรับเกลือ การใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล จะส่งผลให้ความดันเลือดของผู้ป่วยลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ

เหงื่อมีส่วนประกอบของแอมโมเนียที่เข้มข้นสูงและกรดแลกติก แต่จะมีกลูโคสน้อยมาก เพราะว่าต่อมเหงื่ออาศัยพลังงานจากกระบวนการสร้างและย่อยสลายกลูโคสเพื่อทำหน้าที่
เป็นที่กล่าวกันว่าผิวหนังเป็นตัวสะท้อน หรือ ตัวบ่งชี้สุขภาพ ผิวหนังมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับแสงมาก แสงเป็นปัญญาของชีวิตที่มีสุขภาพดี แสงให้ความแข็งแกร่งแก่ผิว ทำให้สุขภาพแข็งแรง เมื่อเรากล่าวถึงการทำงานของแสง เราก็ไม่สามารถปฏิเสธการทำงานของรังสิอินฟราเรดระยะไกลได้เลย

 

ผลกระทบของรังสีอินฟราเรดระยะไกลต่อร่างกายมนุษย์ ในแง่ที่เกี่ยวกับการขับเหงื่อ

ประการแรก - รังสีอินฟราเรดระยะไกลจะสามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังได้ลึก 4-5 เซนติเมตร มันจะสามารถอบอุ่นกล้ามเนื้อ หลอดเลือด ต่อมน้ำเหลือง เส้นประสาท และเนื้อเยื่ออื่นๆ  ในอีกทางหนึ่ง มันยังสร้างสารเคมีภายในเนื้อเยื่อที่เคลื่อนไหว อันเป็นผลมาจากการดูดซับพลังงานความร้อน
ประการที่สอง - ความร้อนภายในร่างกายเป็นเหตุให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้เร็วขึ้นและเพิ่มกิจกรรมในกระบวนการสร้างและย่อยสลาย รังสีอินฟราเรดระยะไกลยังช่วยต่อต้านปัญหาการไหลเวียนโลหิต ปรับปรุงหน้าที่ของระบบสืบพันธุ์ และทำให้ร่างกายมีการเติบโตแข็งแรงขึ้น
ประการที่สาม - รังสีอินฟราเรดระยะไกลช่วยสนับสนุนการทำงานในสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่น การใช้รังสีอินฟราเรดระยะไกลในการเลี้ยงดูทารกที่คลอดก่อนกำหนดและทำให้ทารกเหล่านั้นอบอุ่น นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการขจัดโลหะหนัก สารพิษ และ ของเสีย ที่กำจัดออกมาพร้อมเหงื่อและต่อมใต้ผิวหนัง
 




การบำบัดด้วยอินฟราเรดระยะไกล

รู้จักกับอินฟราเรดระยะไกล
อินฟราเรดระยะไกลกับสุขภาพ
บทบาทในด้านการบำบัด
อินฟราเรดกับการปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต
อินฟราเรดกับการขับสารพิษโลหะหนัก
อินฟราเรดกับภาวะไตวายเรื้อรัง
อินฟราเรดกับความดันโลหิต
อินฟราเรดกับการบำบัดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง



Copyright © 2010 All Rights Reserved.